P Care ศูนย์เคลือบแก้ว-เซรามิค พ่นกันสนิม ฟิล์มกันสะเก็ดหิน ปทุมธานี

เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ป้องกันแสงแดดได้จริงหรือไม่?

เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ป้องกันแสงแดดได้จริงหรือไม่

การทำ เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก เป็นการดูแลผิวสีรถที่มีประสิทธิภาพที่สุดแบบหนึ่งที่เรามีอยู่ในปัจจุบันนี้ เนื่องจากมันสร้างชั้นฟิล์ม ที่มีคุณสมบัติด้านความแข็ง ความลื่น และมีความหนาเคลือบอยู่เหนือชั้นสีแท้ของรถเอาไว้ติดแน่นทนนาน ทำให้สีรถปลอดภัยจากมลภาวะจากสภาพแวดล้อม การสัมผัส สิ่งสกปรกและ รอยขีดข่วนจากการใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำว่า การทำ เคลือบแก้ว ยังสามารถที่จะป้องกันรถจากการทำร้ายของแสงแดดได้อีกด้วย เรื่องนี้เป็นจริงหรือไม่…

เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ป้องกันแสงแดดได้จริงหรือไม่

แสงแดดทำร้ายสีรถอย่างไร?

ก่อนที่เราจะเชื่อว่ารถที่ผ่านการทำ เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก สามารถป้องกันสภาพสีจากแสงแดดได้ ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า แสงแดดนั้นมันสามารถทำร้ายสีรถได้อย่างไรเสียก่อน เพื่อดูผลที่เกิดขึ้นแล้วค่อยมาพิจารณาว่า ประสิทธิภาพของ น้ำยาเคลือบแก้ว นั้นตอบโจทย์การปกป้องรถของเราได้จริงหรือไม่…

สาเหตุที่แสงแดดสามารถทำร้ายสีรถให้เกิดอาการซีด และหมองไม่สดใสได้ ก็เนื่องจากในแสงแดดมี รังสี UV หรือ รังสี Ultraviolet ซึ่งมันเป็นรังสีที่มีลักษณะเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคลื่นสั้น มีความถี่สูงกว่ารังสีที่คนเราสามารถมองเห็น ซึ่งผลของรังสีชนิดนี้เมื่อส่งกระทบโดนสีรถ รังสี UV มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมีของสี ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของเม็ดสีลงได้อย่างรวดเร็ว ผลที่เราเห็นก็คือ สีจะมีความสีจางลงไปเรื่อยๆ และยิ่งโดนแดดส่องมาก โดนแดดส่องนานก็ยิ่งสีที่มีอยู่ก็ยิ่งซีดเร็ว รวมไปถึงความร้อน ซึ่งอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นนั้นมันสามารถทำลายสภาพของเม็ดสีให้เสียหายได้ นอกจากนี้ยังมีกรณีเสริมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับแสงแดดที่สามารถเล่นงานสีรถ อย่างการที่แสงแดดที่มีความร้อนนั้นทำให้ฝุ่นผง ความชื้น หยดน้ำ ยางไม้ หรืออื่นๆ ที่เกาะติดผิวรถเกิดสภาพแห้งกรังเกาะติดและฝังแน่นที่ผิวรถจนยากที่จะทำความสะอาดให้ออกไปได้ง่ายๆ เรื่องนี้คงเคยพบกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรอยคราบสนิมน้ำ คราบยางไม้ ยางมะตอย ที่ปล่อยเอาไว้นานมันจะแข็งแห้งติดที่ผิวรถอย่างน่ากลัวและขจัดออกได้ยากมากๆ

เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ป้องกันแสงแดดได้จริงหรือไม่

ดังนั้นแสงแดดจึงเป็นสิ่งที่ทำลายสีของรถให้เกิดอาการซีดจาง หมอง ดูแล้วไม่สดใสได้ ซึ่งผลของมันคนใช้รถส่วนใหญ่ทราบและประจักษ์กันดีกับตนเองในการใช้งานรถ ซึ่งมันก็อาจจะดูเป็นเรื่องปกติเพราะแสงแดดมีอยู่ทั่วไป และแม้ว่า ถึงเราจะรู้แบบนั้น มันก็ยากที่จะทำอะไรได้ เพราะเราต้องใช้รถเสมอ และแน่นอนเมื่อขับรถออกไปตามถนนหนทางในเวลากลางวัน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เจอแดด และเป็นไปได้ยากเช่นกันที่เราจะสามารถหาที่จอดรถในที่ร่มได้ทุกครั้งที่เราไปที่ไหนๆ ดังนั้นต่อให้รู้ว่าแสงแดดทำร้ายสีรถให้ซีดจาง หมองเร็วอย่างไร เราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการพบเจอกับแสงแดด เว้นแต่จะเลือกออกนอกบ้านเฉพาะเวลากลางคืน ซึ่งก็คงน้อยคนเหลือเกินที่จะทำแบบนั้นได้ เพราะกิจธุระส่วนใหญ่ของคนเรามันเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นในเวลากลางวัน ดังนั้นแทนที่เราจะยอมปลงต่ออานุภาพการทำลายของแสงแดดและทำได้แค่… ทำใจรับมันผลของมัน เราจึงต้องหาวิธีป้องกันสีรถของเราเอาไว้ อย่างน้อยก็เพื่อชะลอความเสียหายจากแสงแดดไม่ให้เกิดขึ้นเร็วเกินไปนัก

เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ป้องกันแสงแดดได้จริงหรือไม่

ประสิทธิภาพของการทำเคลือบแก้ว ป้องกันรถจากแสงแดดได้จริงหรือไม่?

การป้องกันสภาพของสีรถจากแสงแดดทำร้าย ก็จะมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธีหลัก ก็คือ

  1. การปกป้องไม่ให้สีรถโดนแสงแดดโดยตรง เช่น การจอดในที่ร่ม ซึ่งเราได้กล่าวไปแล้วว่ามันเป็นเรื่องที่ยากสักหน่อย หากเราใช้รถในเวลากลางวันซึ่งทำให้ไม่สามารถเลี่ยงจากการโดนแสงแดดได้ หรือ การใช้ผ้าคลุมรถที่สามารถป้องกันรังสี UV ซึ่งเรื่องนี้ผ้าคลุมรถธรรมดาป้องกันไม่ได้ ถ้าไม่ใช้ผ้าชนิดป้องกันรังสี UV ก็ยังไม่สามารถป้องกันการทำลายของรังสีนี้ที่ทะลุทะลวงลงสู่สีรถได้ แต่… ก็ต้องระวังเช่นกันในการใช้ผ้าคลุมรถ เพราะหากว่าผิวรถหรือตัวผ้าคลุมไม่สะอาดพอ เศษดินเศษฝุ่นที่เกาะรถหรือผ้า ก็สามารถที่จะสร้างรอยขีดข่วนบนสีรถ ซึ่งมันมีความน่ากลัวไม่น้อยกว่าแสงแดดเช่นกันกันการทำลายสีรถ ซึ่งในกรณีนี้การทำ เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก มีผลเนื่องจาก สีรถไม่ได้โดนแสงแดดส่องลงตรงๆ ที่พื้นผิว และใน น้ำยาเคลือบแก้ว ยังมีการเพิ่มสารที่มีปฏิกิริยาในการลดผลรังสี UV เอาไว้ด้วย (แล้วแต่ชนิดของ น้ำยาเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ที่เราเลือกใช้) สรุปง่ายๆ ก็คือ การ เคลือบแก้ว ป้องกันสีแท้ของรถไว้ข้างล่าง และยังมีประสิทธิภาพในการลดทอนการทำลายของรังสี UV
  2. สะท้อนแสงแดดและรังสีออก วิธีนี้คือการทำให้รถของเราเกิดความเงาและสะท้อนแสงได้ดี เป็นการหักเหมุมของแสงที่ตกกระทบให้สะท้อนกลับ สามารถป้องกันการทำร้ายจากรังสี UV ได้ ซึ่งใน น้ำยาเคลือบแก้ว มีการผสมสารเพื่อให้เกิดปฏิกิริยานี้ลงไป ทำให้ รถเคลือบแก้ว สามารถทนต่อการทำร้ายของแสงแดดได้ดีกว่าแม้จะใช้งานกลางแจ้งอยู่เสมอ

และนอกจาก 2 เรื่องนี้แล้ว การ เคลือบแก้ว ยังสามารถป้องกันคราบและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่จะเกาะติดผิวทำลายสีรถได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ไม่ว่าจะยางไม้ คราบน้ำ โคลน ฝุ่น หรืออื่นๆ ล้วนแต่ไม่สามารถเกาะฝังแน่นกับสีแท้ของรถได้ทั้งสิ้น เนื่องจากน้ำยาจะก่อฟิล์มแข็งและใสเป็นเงาป้องที่เกิดขึ้นนั้นป้องกันเอาไว้ ดังนั้นการ เคลือบแก้ว จึงสามารถที่จะปกป้องรถจากแสงแดดได้ในระดับที่น่าพอใจ

รถเป็นสิ่งที่เราต้องใช้งานกลางแจ้งเสมอ ดังนั้นการที่เราจะสามารถลดผลจากการทำร้ายของแสงแดดจึงต้องอาศัยสารเคลือบปกป้องสีผิวรถที่มีประสิทธิภาพ อย่างการทำ เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก เอาไว้ ก็เชื่อได้ว่าจะสามารถช่วยให้รถของเราดูมีสีที่สวยงามอยู่ได้นาน และมีสภาพอายุการใช้งานของสีรถที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น

ติดตามผลงาน สอบถามข้อมูล ปรึกษาแพคเกจที่เหมาะสมกับการใช้งานเพิ่มเติม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *