ราคาเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ควรพิจารณาด้วยอะไร
“หยุดเปรียบเทียบ ราคา กับชื่อเรียก ก่อนเคลือบเซรามิก ถ้าไม่เห็นงานจริง!!” เปิดหัวกันแรงๆให้หันมามอง สำหรับเพื่อนๆที่สนใจเคลือบแก้วเคลือบเซรามิก เนื่องจากขณะนี้กระแสการเคลือบแก้วเคลือบเซรามิก มีการแข่งขันที่แรงแต่กลับขาดการให้ความเข้าใจที่ถูกต้อง นั่นเท่ากับเพื่อนๆจะเสียโอกาสที่จะได้เลือกงานที่คุ้มค่าที่สุด เพราะอาจไปเข้าใจว่าทำเคลือบแก้วเคลือบเซรามิก ทำที่ไหนๆก็เหมือนๆกัน เพราะชื่อเรียกก็เห็นว่าเหมือนๆกัน ดังนั้น เลือกทำที่ไหนก็เหมือนกัน หรือเอาราคามาเป็นตัวตั้ง เพราะเห็นว่าชื่อเหมือนๆกัน
เพราะจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเคลือบแก้วเคลือบเซรามิกหลักนั้นคือ เพื่อสีรถของเราสวยงามแตกต่างจากเดิม และความเงางามเหล่านี้ จะต้องดูแลง่ายๆอยู่ทน และจะต้องอยู่นาน ซึ่งถ้าจะตอบจุดประสงค์ให้ครบทั้งหมดนี้ จำเป็นต้องอาศัยปัจจัย 3 อย่างคือ
1.เรื่องฝีมือ
ในการเตรียมผิวก่อนการทำเคลือบแก้วเคลือบเซรามิก ซึ่งการเตรียมผิวก่อนเคลือบที่ดี จะต้องดีงความเงางามออกมาให้ได้มากที่สุดด้วยการขัดให้เงาดุจกระจก จำเป็นต้องอาศัยฝีมือ และเวลาเป็นอย่างมาก ราคาย่อมแตกต่างยากการเตรียมผิวทั่วๆไป ไม่เช่นนั้น เพื่อนๆก็สามารถไปเลือกซื้อน้ำยาเคลือบเซรามิกจากอินเตอร์เน็ตขวดหลักร้อยมาทำเองที่บ้านจะง่ายและถูกกว่าเสียอีก
2.ผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์เคลือบแก้วเคลือบเซรามิกที่ดี จะต้องทันเทคโนโลยี และจะต้องออกแบบมาเพื่อปกป้องให้ได้ครบทุกชิ้นส่วนของรถยนต์ ไม่ว่า สีรถ พลาสติก ห้องเครี่อง กระจก ล้อแมกซ์ และภายในห้องโดยสาร
3.การบริการหลังการขาย
การบริการหลังการขายที่ดี จะต้องมีหลักประกันสำหรับการใช้งานในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการเคลมชิ้นงาน จะต้องไม่มีเงื่อนไขจากการใช้งาน เพราะรถที่ทำเคลือบเซรามิกไปแล้ว มีโอกาสถูกมลภาวะ หรือการขูดขีดแน่นอน หรือการดูแลหลังการขายจำเป็นต้องมีโควต้าเคลือบซ้ำได้ เพราะรถที่เพื่อนๆนำไปใช้งาน แต่ละช่วงเวลาอาจไม่เหมือนกัน มีช่วงที่ใช้งานมาก ใช้งานน้อย ซึ่งช่วงที่ใช้งานหนัก อาจมีมลภาวะฝังลึก ดังนั้น การเคลือบซ้ำจึงเป็นการแก้ไขที่ดีที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่า รถจะกลับมาสวย ใหม่ และปกป้องดีเหมือนเดิม
นี่คือ 3 ปัจจัย สำคัญต่อความคุ้มค่าในการเคลือบแก้วเคลือบเซรามิก
ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ เพื่อนๆจำเป็นจะต้องมาเห็นผลงานจริง ไม่ว่าจะเป็นงานใหม่ หรืองานเคลือบหลังการขาย การเปรียบเทียบจากชื่อ จากราคา จึงไม่ใช่คำตอบ ควรเข้าไปดูผลงานต่างๆเหล่านี้ให้ครบถ้วนด้วย
เพราะรถคันนึงเมื่อซื้อมาแล้ว ส่วนใหญ่ก็ต้องใช้งานหลายปี ดังนั้น การเสียเวลา 1 วันเพื่อเข้าไปเปรียบเทียบผลงานด้วยตาตัวเอง จึงเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด