P Care ศูนย์เคลือบแก้ว-เซรามิค พ่นกันสนิม ฟิล์มกันสะเก็ดหิน ปทุมธานี

ฟิล์มกันรอยรถยนต์ กับ คำถามยอดฮิต 2023

เราได้รวบรวมคำถามยอดฮิตมาให้อ่านกันนะครับ เกี่ยวกับ “เรื่องฟิล์มใสกันรอย กันสะเก็ดหินรถยนต์” หลายท่านอาจจะทราบกันดีแล้วนะครับว่า การเคลือบเซรามิกอย่างเดียว ไม่สามารถป้องกันสะเก็ดหินได้ ปัจจุบันจึงได้นำฟิล์มใสกันรอยมาเป็นตัวปกป้องสีรถคู่กับการเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก

อย่างแรกเลยนะครับ ฟิล์มใสกันรอยทำไมมีหลายราคา เยอะแยะมากมายไปหมด มีกี่ประเภท กี่แบบ ปัจจุบันฟิล์มใสกันรอยรถยนต์นั้นก็จะมีอยู่ 3 ประเภทนะครับ ก็จะมี PVC , TPH , TPU ซึ่งทั้งสามประเภทก็จะมีคุณภาพและราคาที่แตกต่างกันไป เดี๋ยวจะมาอธิบายคร่าวๆของฟิล์มกันรอยแต่ละเกรดครับ

ฟิล์ม PVC (Polyvinylchloride) ก็ถือว่าเป็นฟิล์มที่ใช้กันมานานแล้วนะครับ ตอนนี้ก็ไม่เป็นที่นิยมกันแล้วในวงการคาร์ดีเทลลิ่ง สาเหตุก็เพราะว่าความยืดหยุ่นที่มีค่อนข้างน้อย ระยะเวลาในการใช้งานน้อย 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และจะเกิดปัญหากับสีรถงตอนที่ลอกฟิล์มออก ตัวนี้ราคาก็จะถูกหน่อย สองหมื่น สามหมื่น แล้วแต่ขนาดรถ ดังนั้นถ้าเกิดคำถามว่าเลือกประเภทไหนดี ก็ควรที่จะตัดเกรด PVC ออกได้เลยครับ

ฟิล์ม TPH (thermoplastics Polyurethane Hybrid) ฟิล์มประเภทนี้ก็เป็นลูกผสมระหว่าง PVC และ TPU นะครับ เหมือนไก่ชนเลยเนอะ แฮ่.. ซึ่งก็จะจะดีกว่าเกรด PVC ขึ้นมา จะมีอายุการใช้งานที่นานกว่า ให้ยืดหยุ่นดีกว่า คุณสมบัติที่ดีกว่า PVC ส่วนในเรื่องของคราบกาวก็ยังมีอยู่บ้าง แต่จะไม่เยอะเท่า PVC และมีความหนากว่า ใสกว่า แต่..ก็ยังมีลักษณะเป็นผิวส้มอยู่บ้าง ไม่เรียบเนียน อายุการใช้งานก็ประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละท่าน และราคาก็จะขยับขึ้นมาอีกหน่อยจาก ฟิล์ม PVC

ต่อมาเป็นฟิล์มประเภทสุดท้ายนะครับก็คือ ฟิล์มเกรด TPU (Thermoplastic Polyuethane) ฟิล์มเกรดนี้เป็นฟิล์มเกรดที่ดีที่สุดในบ้านเราแล้วครับ เนื่องจากคุณสมบัติค่อนข้างดีเลยครับ เช่น มีความหนากว่า ความใส การยืดหยุ่นสูง ความใส ความเคลียร์ เนื้อฟิล์มนี่แทบจะไม่มีผิวส้มเลยก็ว่าได้ และการฟื้นฟูสภาพผิวด้วยตัวเอง (Self  Healing) และที่สำคัญตอนลอกฟิล์มออกาวแทบจะไม่มีบนสีรถเลยครับ อายุการใช้งาน ก็เริ่มตั้งแต่ 4 ปีไปจนถึง 7 ปี แล้วแต่ยี่ห้อ แล้วแต่เกรด และการใช้งานของแต่ละคนนะครับ ฉะนั้นแล้วฟิล์มเกรด TPU จึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

หลังจากติดตั้งฟิล์มใสกันรอยไปแล้วจะเหลืองไหม จะว่าไม่เหลืองเลยก็จะเป็นการหลอกลวงผู้บริโภคเนอะ เหลืองแน่นอนครับ ติดเสร็จก็ยังไม่เหลืองหรอกนะครับ ฮ่าๆๆๆ แต่ใช้งานไปก็อาจจะมีเหลืองบ้าง ด้วยการใช้งานของเราที่ตากแดดหรือเจอมลภาวะ ก็อาจจะทำให้เนื้อฟิล์มเหลืองบ้าง จะเหลืองช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิล์ม การใช้งาน และการบำรุงรักษา แต่..ก็จะเห็นได้ในรถสีขาว หรือสีอ่อนๆ ถ้าเป็นรถสีดำหรือสีเข้มๆหน่อยก็จะไม่เห็น จะไปเห็นตอนที่ลอกฟิล์มออก

การล้างรถ การดูแล บำรุงรักษาฟิล์มหลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว การล้างรถไม่ว่าจะล้างเองหรือเข้าคาร์แคร์นะครับก็ควรที่จะระวังในเรื่องของบริเวณขอบฟิล์ม ถ้าเข้าคาร์แคร์ก็อาจจะบอกกับพนักงานว่ารถติดฟิล์มมานะ ฉีดน้ำระวังๆ ตอนเช็ดก็ระวังๆ เพราะอาจจะไปโดนขอบฟิล์มได้ ในส่วนที่พับเก็บของไว้ข้างในไม่ได้ ส่วนในเรื่องการบำรุงรักษาก็ควรจะมีการบำรุงรักษาบ้าง อาจจะมีการนัดกลับไปเพื่อเคลียร์มลภาวะบนฟิล์ม บำรุงรักษาเนื้อฟิล์ม เคลียร์มลภาวะบริเวณขอบฟิล์ม เพราะอาจจะมีฝุ่น มีมลภาวะตรงขอบฟิล์มบ้าง อันนี้ก็เลือกร้านที่มีหลังการขายดีดีนะครับ

ฟิล์มกันรอยรอบคันติดตรงไหนได้บ้าง ติดกระจกได้ไหม? ติดแทบทั้งหมดเลยนะครับบนสีรถ บริเวณสีรถติด 100% บริเวณที่เป็นเปียโนแบล็คก็ติด แล้วก็ในส่วนที่เป็นโคเมี่ยมก็ติด แต่ส่วนที่เป็นโคเมี่ยมตอนลอกออกอาจจะมีคราบกาวบ้างหรืออาจจะไม่มีก็ได้ ถ้ามีก็ต้องใช้น้ำยาขัดหรือใช้แรงคนในการขัดก็อาจจะเป็นรอยได้ ในส่วนที่ติดไม่ได้ ก็จะมีชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติกสีดำด้าน แล้วก็กระจกรอบคันนะครับ ซึ่งฟิล์มกระจกมันเป็นฟิล์มคนละประเภทกัน ฟิล์มที่ติดกระจกก็จะเป็นฟิล์มอีกประเภทนึงสำหรับติดกันสะเก็ดหินนะครับ

ตอนลอกฟิล์มออกจะมีปัญหากับสีรถไหม ไม่มีครับ ส่วนมากฟิล์มที่เราใช้เป็นฟิล์ม TPU ซึ่งคุณภาพกาวค่อนข้างดี จึงไม่มีผลกับสีรถ ตอนลอกครับ เว้นแต่..รถที่ทำสีมาหรือเคลมสีมานี่ก็จะลำบากนิดนึงครับ แล็กเกอร์อาจจะมีหลุดออกมาได้ ตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้ง หรือตอนติดตั้งแล็กเกอร์อาจจะไม่หลุด อาจจะไปหลุดตอนลอกฟิล์มออก เพราะว่าสีที่เคลมมานี่คุณภาพไม่เท่ากับสีที่ออกมาจากโรงงาน อันนี้ก็ต้องระวังกันให้มากครับ

สอบถามรายละเอียด ปรึกษาหารือ ติดตามผลงานได้ครับ

ติดตามผลงานอีก1ช่องทาง

••• จากบทความนี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะครับ •••

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *