P Care ศูนย์เคลือบแก้ว-เซรามิค พ่นกันสนิม ฟิล์มกันสะเก็ดหิน ปทุมธานี

คำถามที่พบบ่อยใน งานเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ติดฟิล์มใสกันรอย

วันนี้เราจะไขข้อสงสัย การพิจารณาตัดสินใจ หรือว่าคำถามที่พบบ่อยในงาน ของการเคลือบเซรามิก เคลือบแก้ว ฟิล์มกันรอย หรือ ว่าพ่นกันสนิมสูตรเก็บเสียง Damping Spray ของเรา เรามีประเด็นอะไรกันบ้างนะครับ

  1. เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิคแล้ว จะอยู่ได้นานขนาดใหน ผมมองว่ามันมีปัจจัยอยู่ 3 อย่าง เลยนะครับ ปัจจัยแรกคือเรื่องผลิตภัณฑ์ ทางผู้ผลิตหรือผู้นำเข้านั้นเขาเคลมไว้ว่ามันอยู่ได้กี่ปี? คุณสมบัติเป็นยังไงบ้าง? มีอายุการใช้งานเท่าไหร่? การดูแลหลังการขายยังไง? และปัจจัยที่สองคือการเตรียมผิว การเตรียมผิวสำคัญยังไงก็คือ ถ้าเราเตรียมผิวก่อนเคลือบให้สวย ความเงาก็จะคงทนยาวนานและก็ผิวรถนั้นจะเคลียร์จากมลภาวะ ทำให้การยึดเกาะของน้ำยาเคลือบนั้นดีขึ้น และเรื่องสุดท้ายสำคัญเลยครับ คือเรื่องการดูแลหลังการขาย ทางกลุ่ม Armor ของเรา ก็จะให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าการใช้งานของลูกค้าแต่ละท่านนั้นไม่เหมือนกัน แตกต่างกันไป โดนมลภาวะ โดนฝุ่น โดนควัน โดนคราบน้ำ คราบขี้นก แมลง หรือ ยางไม้ นั้น แล้วก็เหตุการณ์ที่เจอแต่ละรายเกิดขึ้นไม่เหมือนกัน เราจึงต้องมีการบริการหลังการขาย เป็นการขัดเคลียร์มลภาวะ แล้วก็เคลือบให้ใหม่ ให้กับลูกค้า เพื่อให้อายุการใช้งานและก็ ความเงาของการเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิคนั้น มีความเงา สด อยู่ตลอดเวลา..
คำถามที่พบบ่อยใน งานเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ติดฟิล์มใสกันรอย
คำถามที่พบบ่อยใน งานเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ติดฟิล์มใสกันรอย
คำถามที่พบบ่อยใน งานเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ติดฟิล์มใสกันรอย

2. เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิค ทำไมถึงมีราคาที่หลากหลายตั้งแต่ หลักร้อย หลักพัน ไปจนถึงหลักหลายหมื่น สำหรับเรื่องราคานะครับ ทำไมมีหลายราคา หลายเรท ตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพัน หลักหลายหมื่นนะครับ ก็คือหนึ่งในเรื่องของดูแลหลังการขาย หรือว่า ดูแลหลังการขาย จะทำอะไรให้บ้าง เคลมชิ้นงานกี่ชิ้น เคลือบซ้ำให้ใหม่ หรือ แค่ลงแว็กซ์ ในรอบที่กลับมาดูแลรักษา แล้วก็ในการเตรียมผิวก่อนที่จะเคลือบ ก่อนติดฟิล์ม เตรียมผิวให้แบบใหน ขัดปรับผิวส้ม หรือว่าแค่ขัดฟื้นฟูสภาพผิว เคลียร์มลภาวะ ลบรอย ขีดข่วน ขัด PCS ธรรมดา ถ้ารถป้ายแดงแทบจะไม่แตกต่างในเรื่องของความเงางามเลย คือว่ารถป้ายแดงเงาอยู่แล้วและอาจจะมีรอยขีดข่วนนิดหน่อย ขัด PCS มันก็หาย ถ้ารถป้ายแดงก็จะได้แค่น้ำลื่นๆ เด้งๆ ไม่มีความแตกต่างเลยสำหรับการเตรียมผิวนะครับ การเตรียมผิวก่อนเคลือบ ถ้าไม่ปรับผิวส้ม ราคาจะอยู่ที่หลักพัน จนถึงหลักหมื่นต้นๆ แล้วก็การลบผิวส้ม หรือการปรับผิวส้ม มันค่อนข้างที่จะเป็นงานฝีมือ ราคาก็จะค่อนข้างเพิ่มขี้นมาอีกเยอะเลย เพราะว่าเป็นงานฝีมือ ก็คือช่างต้องมีประสบการณ์ แล้วก็จะมีเทนนิคในการปรับผิวส้ม ถ้าใช้ช่างที่ไม่มีประสบการณ์อาจจะพลาดได้ แต่หลังจากเตรียมผิวให้สวยแล้ว งานออกมารบลรองว่าสวยกว่าแตกต่างจากเดิมแน่นอนสุดท้ายก็คือ ในเรื่องของเทคโนโลยีคุณสมบัติในเรื่องของน้ำยาว่ามรอะไรบ้าง ในเรื่องของ Hydrophobic , Oleophobic , self healing effect ส่วน self healing effect จะสามารถฟื้นฟู สภาพฟื้นผิวได้เอง ตัวนี้ราคาค่อนข้างแพงหน่อย เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ในเรื่องของรอยขีดข่วนอะไรพวกนี้ เวลาเจอคามร้อนจากการใช้งานก็จะ self healing ตัวเอง หรือการฟื้นฟูสภาพผิวด้วยตัวเอง แต่รอยสะเก็ดหิน รอยขีดข่วนหนักๆ แบบนี้ก็ไม่ได้นะครับ self healing ไม่ไหวเหมือนกัน

3. การติดฟิล์มใสกันรอยหรือการเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิค อันใหนดีกว่ากัน? การปกป้องของ 2 เทคโนโลยีนี้ ไม่เหมือนกัน การเคลือบเซรามิค ไม่สามารถที่จะป้องกันสะเก็ดหินได้ การเคลือบเซรามิคนั้น ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า ขัด เคลือบเซรามิค ความต้องการของคนที่ใช้บริการนี้ก็คือ ต้องการ ป้องกันรอยขีดข่วน ป้องกันมลภาวะอ่อนๆ และเพิ่มความเงาให้กับรถ และจะเงาแบบเหมือนรถใหม่ออกจากโชว์รูม หรือว่าต้องการความเงาแบบขีดสุด เงาแบบแตกต่าง เงาคมเป็นกระจกไปเลยและในเรื่องของการปกป้องงานการเคลือบเซรามิค จะปกป้องได้แค่เรื่อง คราบ มลภาวะ รอยขีดข่วนอ่อนๆ มันจะเกิดขึ้นที่ชั้นที่เราเคลือบ ส่วนงานฟิล์มใสกันรอย (Film Protection) วัสดุหลักในการที่เอามาผลิตเป็นฟิล์มใสกันรอย ผลิตมากจาก polyurethane เป็นพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นสูง ฟิล์มใสกันรอยตัวนี้มันมีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง ก็แล้วแต่เกรด แล้วแต่ผลิตภัณฑ์แต่ละค่าย ฟิล์มใสกันรอยที่เราใช้เป็นเกรด TPU และสามารถฟื้นฟูสภาพผิวได้เอง มีความยืดหยุ่นสูงที่ self healing ทนความร้อน มี Oleophobic effect และก็เพิ่ม ความเงาคล้ายกับการเคลือบแก้ว แต่ความเงานั้นยังเงาไม่สุดเท่ากับการเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิคแต่ก่อนที่เราจะติดฟิล์มใสกันรอย เราจะมีการปรับผิวส้มหรือลบผิวเปลือกส้มนะครับ หรือ การลบแล็คเกอร์ส่วนเกิน ซึ่งเราจะเตรียมผิวให้สวยก่อนเพื่อจะติด สมมุติถ้าเราไม่เตรียมผิวให้สวยก่อน ความเงา มันจะไม่ถึงขีดสุด ติดแล้วเงาขึ้น อาจจะเงาไม่สุด หรือว่าฟิล์มบางตัวนั้นคุณภาพไม่สูงก็จะไม่เงาขึ้นเลย ส่วนี้ทางลูกค้าต้องเลือกด้วยเพราะ ต้องแลกอย่างใดอย่างหนึ่งว่า จะเงาถึงถึงขีดสุดก็ต้องเป็นงานเคลือบเซรามิค แต่การปกป้องก็จะไม่ดีเท่าการติดฟิล์มใสกันรอย..

คำถามที่พบบ่อยใน งานเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ติดฟิล์มใสกันรอย

สรุปการเคลือบเซรามิคกับการติดฟิล์มใสกันรอย ประโยชน์มัยจะคนละแบบกัน อย่างเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิคนี้ เรื่องของความเงาความแตกต่างกัน ประโยน์ที่ได้เพิ่มเติมก็จะเป็นเรื่อง ของการดูแลรักษารถที่ง่ายขึ้น ล้างรถได้ง่าย อันนี้สำคุณเลยนะครับ คนที่ไม่เข้าคาร์แคร์ ล้างรถเองได้ง่าย ดูแลรถเองได้ง่าย แล้วก็มลภาวะน้อย ไม่ว่าจะเป็นคราบแมลง คราบยางมะตอย ราบโคลน อะไรอย่างนี้ เกาะติดรถได้ยาก และก็ที่สำคัญ ควรเลือกร้านที่มีการดูแลรักษาหลังการขายไม่ว่าจะเป็นงานติดฟิล์มกันรอยหรืองานเคลือบเซรามิค ส่วนฟิล์มกันรอย ชื่อมันก็บอกอยู่เป็นฟิล์มกันรอย ทำมาเพื่อป้องกันการเกิดรอยหนักๆอย่างเช่น รอยขูดขีด รอยสะเก็ดหิน รอยเฉี่ยวชนบางๆ เป็นต้น และ กลุ่ม Armor ของเราก็ได้นำเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ ทั้ง 2 ตัวนี้ เข้ามาผสมผสานกัน เพื่อให้ได้รับการปกป้องอย่างสมบูรณ์แบบและลงตัว สามารป้องกันรอยสะเก็ดหิน รอยขีดข่วนได้ แล้วก็ทำให้ตัวรถนั้นมีความเงาคมอย่างแตกต่างมองเห็นความแตกต่างด้วยสายตาอย่างชัดเจนมากกว่าความรู้สึกหรือว่าการมโนภาพ..

คำถามที่พบบ่อยใน งานเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ติดฟิล์มใสกันรอย

4. ความคุ้มค่าของงานเคลือบเซรามิคหรือติดฟิล์มกันรอยอยู่ตรงใหน? ผมคิดว่าความคุ้มค่ามันขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับ ถ้าลูกค้านั้นทำแล้วตรงกับผลประโยชน์และตอบโจทย์ของลูกค้า หรือ ตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นความเงางามจากการเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิค หรือว่าจะเป็นการ Protect การป้องกันการเกิดรอยอย่างฟิล์มใสกันรอย ความคุ้มค่านี้จะขึ้นอยู่ที่ประโยชน์และการใช้งานของลูกค้าเป็นหลัก อย่างเช่น ลูกค้าต้องการที่มีความเงางามก็สามารถกันสะเก็ดหินได้ด้วย ก็คือ ใช้รถในต่างจังหวัดบ่อย หรือ วิ่งทางไกล เจอรถสิบล้อ รถบรรทุก ก็จะมีโอกาสจะโดนสะเก็ดหิน ก็เคลือบเซรามิคทั้งคันและก็ติดฟิล์มเพียงแค่แนวปะทะ ก็คุ้มค่าสำหรับลูกค้าแล้วประหยัดงบประมาณด้วย ลูกค้าที่ต้องการจะติดฟิล์มทั้งคันก็เพื่อป้องกันรอยอย่างเช่น จอดในสถานที่แออัด หรือที่จอดรถชิดกันหน่อยที่จะเปิดประตูไปเสี่ยงกระแทกรถคันข้างๆประตูเป็นรอย หรือว่า โอกาสที่คนอื่นจะเปิดประตูมาโดนรถเราเป็นรอย ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการหรือการใช้งานลูกค้าเป็นหลักนะครับ และก็ที่สำคัญนะครับ เลือกแพ็คเกจ ไม่ว่าจะเป็นงานติดฟิล์มหรืองานเคลือบเซรามิค เลือกแพ็คเกจให้เหมาะสมกับการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าใช้รถในเมือง ไม่ค่อยได้ใช้ไปใหน ก็เคลือบเซรามิคก็พอ หรือจะติดฟิล์มท่อนหน้าด้วยก็ได้ ถ้าเลือกติดฟิล์มทั้งคัน มันอาจจะเกินความจำเป็น และก็บางคคนต้องการให้ภายในนั้นมีความใหม่ตลอด อย่างเช่น วัสดุภายในเพียงอย่างเดียว ก็ค่อนข้างคุ้มค่า เพื่อไม่ให้ภายในรถนั้นเสื่อมโทรมและก็เก่าเป็นรอย

สุดท้ายนะครับ ฝากไว้นิดนึง เวลาจะตัดสินใจทำเคลือบเซรามิคหรือติดฟิล์มกันรอย หรือ พ่นกันสนิมก็ตาม ควรศึกษาการดูแลหลังการขายดีๆ ว่าทางร้านที่ทำเขาดูแลหลังการขายยังไง ไม่ว่าจะเป็นการ Recoat , การบำรุงรักษา Maintenance ,การเตรียมผิวก่อนเคลือบ , การเคลมชิ้นงาน หรืออะไรอย่างนี้ ต้องดูดีๆเลย เวลาทางร้านส่งข้อมูลอะไรให้ ก็อ่านดีๆจะได้ไม่เสียผลประโยชน์ตรงนั้นไป

ติดตามผลงานหรือปรึกษาหารือแพคเกจที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ที่ P Care ศูนย์เคลือบแก้ว-เซรามิค พ่นกันสนิม ฟิล์มกันสะเก็ดหิน ปทุมธานี

ดูคลิปเพิ่มเติม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *